บทความนี้ พามาทำความรู้จักกับบ้านมือสองกันให้มากขึ้นว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร จะหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง
ข้อดี :
ราคาถูกกว่าบ้านใหม่ : เนื่องจากความชำรุดทรุดโทรมที่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา
ได้เห็นของจริง : ในที่นี้ไม่ใช่แค่สภาพตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพื่อนบ้าน สภาพแวดล้อมโดยรอบ และสภาพการเดินทางอีกด้วย
ทำเลที่ดีกว่า : บ้านมือสองจะถูกสร้างก่อนบ้านใหม่ๆ จึงได้โอกาสจับจองทำเลที่ดีกว่า เช่น บริเวณปากซอย ในขณะที่โครงการใหม่ๆ อาจจะเกิดขึ้นที่ท้ายซอย หรือทำเลใจกลางเมืองที่จะเกิดโครงการใหม่ๆได้ยาก เป็นต้น
ราคาต่อรองได้ : เพราะเป็นการซื้อกับบุคคลทั่วไปเป็นส่วนใหญ่ ถ้าพูดคุยกันถูกคอก็อาจต่อรองราคากันได้ ไม่เหมือนการซื้อกับโครงการโดยตรง ที่จะถูกกำหนดราคาแต่ละยูนิตเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เข้าอยู่ได้ทันที : ในกรณีบ้านที่ซื้อมาได้ถูกปรับปรุง และตกแต่งมาก่อนขายแล้ว ก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที ในขณะที่โครงการใหม่ๆ อาจต้องรอสร้างเสร็จก่อนเข้าอยู่
วัสดุมีคุณภาพที่ดีกว่า : สำหรับบ้านที่มีอายุ 15 – 30 ปีขึ้นไป จะมีขนาดของเสา-คาน ที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าบ้านสมัยใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นผนังก่ออิฐ ซึ่งสามารถรื้อถอนหรือต่อเติมได้ง่ายอีกด้วย เพราะสมัยนั้นค่าแรงและค่าวัสดุยังไม่สูงเท่าตอนนี้
ซึ่งโครงการใหม่ๆจะมีการปรับเปลี่ยนวัสดุให้เหมาะสม เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและผลกำไรมากขึ้นนั่นเอง
ข้อเสีย :
ต้องเตรียมเงินซ่อมแซมบ้าน : เพราะบ้านมือสองจะมีความทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เมื่อซื้อมาจึงต้องซ่อมแซมบ้านให้กลับมาสภาพดีเหมือนเดิม โดยเฉพาะพวกงานระบบต่างๆ วัสดุปิดผิว และถ้าอายุของตัวบ้านมากๆ ก็อาจต้องพิจารณาเรื่องงานโครงสร้างต่างๆด้วย
ธนาคารปล่อยกู้ไม่เต็มวงเงิน : ปกติการซื้อบ้านมือสองธนาคารส่วนใหญ่จะปล่อยกู้ได้สูงสุดแค่ 80% (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ลองสอบถามหลายๆธนาคารอีกทีครับ) ดังนั้นเราจึงต้องมีเงินสดอีก 20% ที่เหลือของราคาบ้านเพื่อจ่ายส่วนที่เหลือด้วย
ไม่มีประกันตัวบ้านหลังการขาย : ปกติถ้าเราไปซื้อบ้านใหม่ๆ จะมีการตรวจ Defect หรือข้อบกพร่องต่างๆ ก่อนเซ็นรับโอนบ้าน ซึ่งโครงการจะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดจนกว่าเราจะพอใจ แต่กรณีของบ้านมือสองจะไม่มีนะครับ ดังนั้นจึงควรเช็คสภาพบ้านดีๆ และทำข้อตกลงกับเจ้าของเดิมให้แน่ชัดก่อนซื้อขายจะดีที่สุดนะ
บางครั้งต้องรอเจ้าของเดิมย้ายออก : ขึ้นชื่อว่าบ้านมือสองส่วนใหญ่ย่อมมีคนอยู่เดิมมาก่อน บางครั้งเราอาจเจอคนที่อิดออดไม่ยอมย้ายออกซักที อาจทำให้วุ่นวายและเสียเวลาได้เหมือนกัน หรือบางหลังเจ้าของเดิมก็ขายให้พร้อมเฟอร์นิเจอร์ด้วยก็มีครับ
ส่วนกลางและสาธารณูปโภคที่เก่ากว่า : ในกรณีที่เราซื้อบ้านมือสองในโครงการจัดสรร แน่นอนว่าสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการย่อมทรุดโทรมไปตามกาลเวลา คงสู้โครงการใหม่ๆไม่ได้ รวมถึงที่ดินโครงการที่มีการถมมานานแล้ว ก็อาจต่ำกว่าที่ดินแปลงข้างๆที่เพิ่งถมใหม่ หรือถนนตัดใหม่หน้าโครงการได้เช่นกัน
เสี่ยงได้บ้านมีประวัติ : แน่นอนว่าบ้านที่เคยมีคนอาศัยอยู่ อาจจะมีหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นได้ เรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือรายการคนอวดผีหรอกครับ เราสืบเองได้จากการสอบถามทั้งเจ้าของบ้าน และเพื่อนบ้านข้างเคียง หรือนิติบุคคลและยามหมู่บ้านก็ได้
จะหาบ้านประกาศขายได้จากที่ไหน?
1. ตระเวนหาบ้านที่ติดประกาศขายด้วยตัวเอง
วิธีนี้จะทำให้เราได้เห็นสภาพบ้าน สภาพแวดล้อม และสภาพการเดินทางที่แท้จริง เนื่องจากเราจะได้ลงพื้นที่ไปขับรถตระเวนหาบ้านที่ติดประกาศขายด้วยตัวเอง แต่จะมีข้อจำกัดคือ หากเป็นโครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากๆ เราอาจไม่สามารถเข้าไปในโครงการนั้นๆได้ ถ้าไม่นัดหมายหรือมีคนในพาเข้าไป นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และอาจเสียเวลาไปฟรีๆได้ หากวันนั้นไม่เจอโครงการที่ถูกใจครับ
2. ค้นหาประกาศขายผ่านเว็บไซต์
เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด โดยแต่ละเว็บไซต์ส่วนใหญ่มักจะมีเครื่องมือ ที่ช่วยให้เราค้นหาบ้านที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ด้วยการใส่เงื่อนไขต่างๆลงไป เช่น ทำเล ช่วงราคา และประเภทบ้าน เป็นต้น เพียงแค่นี้ก็จะทำให้เราได้ดูข้อมูลบ้านหลายๆหลังได้ในทีเดียว ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก แต่ข้อจำกัดคือ เราจะเห็นเฉพาะรูปถ่ายเท่านั้น ไม่ได้เห็นของจริงว่าเป็นอย่างไร
ซึ่งแนะนำให้ใช้ 2 วิธีควบคู่กันไป ก่อนอื่นเราควรหาพิกัดของบ้านที่เราต้องการจากในเว็บก่อน จากนั้นจึงค่อยขับรถออกไปดูของจริงทีเดียวหลายๆหลัง ซึ่งในระหว่างทางที่ไปดูนั้น เราก็อาจมองหาบ้านหลังใกล้เคียง เผื่อเจอหลังอื่นติดประกาศเพิ่มเติม แต่อาจไม่ได้ลงเว็บไซต์นั่นเองครับ จะได้ลองโทรเช็คสอบถามราคาไว้เปรียบเทียบหลายๆหลังได้ด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก thinkofliving.com
สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง