สิ่งที่ต้องตรวจสอบเวลาเลือกบ้านมือสอง
ทำเลบ้านมือสอง
เลือกทำเลที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านติดถนนใหญ่หรือบ้านในซอยก็มีข้อดีต่างกันไป มักจะใช้รถส่วนตัวหรือรถสาธารณะก็เลือกให้ตรงกับความต้องการ ดังนั้นก่อนจะหาบ้านต้องรู้ก่อนว่านิสัยหรือความชอบเป็นอย่างไรเพื่อให้ได้ทำเลที่ตอบโจทย์มากที่สุด นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญคือทำเลที่เลือกควรมีสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะว่าไม่ว่าจะอยู่เองหรือซื้อลงทุนก็เป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ
สำรวจสภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้าน
ลงพื้นที่จริงด้วยการคุยสำรวจสอบถามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ว่ารอบๆเป็นอย่างไร มีมลภาวะทางเสียง กลิ่นหรือแสงหรือไม่ เช่นถ้าใกล้โรงเรียนหรือสนามบินก็ควรสอบถามว่ามีเสียงดังรบกวนมาถึงบ้านหรือไม่ เคยน้ำท่วมมากน้อยแค่ไหน เวลาฝนตกมีน้ำขังตรงไหนบ้างเพราะบางครั้งน้ำอาจไม่ขังหน้าบ้านแต่ขังปากซอยก็ทำให้ลำบากในการเดินทางเช่นกัน
นอกจากนั้นควรสำรวจด้วยตัวเองในแต่ละช่วงเวลาว่าช่วงเช้ารถติดในซอยหรือถนนหน้าบ้านไหม ช่วงกลางวันมีเสียงดังจากอาคารข้างเคียงหรือไม่ ช่วงเย็นมีรถจอดมากน้อยแค่ไหนเพราะบางหมู่บ้านมักจะมีรถจอดในซอยทำให้การเข้า-ออกลำบาก
สภาพบ้านมือสอง
เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะมูลค่าบ้านมือสองนอกจากจะขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณสินค้าในตลาดแล้วยังขึ้นอยู่กับลักษณะตัวบ้านมือสองเองด้วย ให้ลองสำรวจและประเมินราคาทรัพย์สินด้วยตัวเอง เช่น ตรวจดูขนาดทรัพย์สินว่าเหมาะสมกับการใช้ประโยชน์หรือเปล่า สภาพทรัพย์สิน การปรับปรุงทรัพย์สิน และการจัดการทรัพย์สิน เนื่องจากเราต้องกันเงินบางส่วนในการปรับปรุงซ่อมแซมตัวบ้านด้วยนั่นเอง
ราคา
อย่าลืมว่าบ้านมือสองหรือคอนโดมือสองมักจะต้องซ่อมแซมปรับปรุงรวมไปถึงการซื้อเฟอร์นิเจอร์ต่างๆใหม่ ดังนั้นตอนไปดูบ้าน/คอนโดควรดูสภาพบ้านเพื่อรวมราคารวมกับราคาบ้านจะได้รู้ว่าเราสามารถผ่อนไหวหรือไม่ และถ้าซื้อสำหรับลงทุนควรซื้อบ้านมือสองที่ราคาค่าเช่าต่ำกว่าราคาเช่าในท้องตลาดเพราะเราสามารถเพิ่มค่าเช่าได้
เปรียบเทียบกับราคาในตลาด
ราคาซื้อขายบ้านมือสองที่คล้ายคลึงในบริเวณที่ใกล้เคียง ดังนั้นควรรู้ราคาของหลังหรือห้องในคอนโดเดียวกันเพื่อดูราคาตลาด และยังสามารถรู้ราคาประเมินของกรมที่ดินของธนาคารและบริษัทประเมินได้
ต่อรองราคา
การต่อรองราคาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องใช้เสมอก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายขั้นสุดท้าย ให้ระลึกไว้เสมอว่าเงินทุกบาทที่เราต่อรองซื้อได้ต่ำกว่าราคาเสนอขาย เนื่องจากบ้านมือสองจะไม่มีโปรโมชันต่างๆหรือการลดราคาเหมือนบ้านมือหนึ่ง ดังนั้นราคาที่จะได้อยู่ที่การต่อรองและพูดคุยกับเจ้าของบ้านเดิมเท่านั้น
เลือกซื้อบ้านมือสองที่มีเงื่อนไข
- เลือกซื้อบ้านมือสอง ที่มีเงื่อนไขเงินกู้สนับสนุน เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด หรืออัตราดอกเบี้ย 0% เพราะผลประโยชน์เหล่านี้คือส่วนลดจากราคาซื้อ บ้านมือสอง นั่นเอง
- สอบถามข้อมูล/กฎการพักอาศัยภายในโครงการหรือภายในชุมชน
- ถ้าเป็นบ้านพักอาศัยแบบไม่จัดสรรก็ควรทราบค่าใช้จ่ายงานสาธารณูปโภคต่างๆ ยิ่งถ้าเป็นบ้านภายในโครงการหรือคอนโดมิเนียมควรรู้ว่าส่วนกลางเท่าไหร่ มีกฎอะไรบ้างเช่นเลี้ยงสัตว์ได้หรือไม่ จอดรถได้กี่คัน มีค่าที่จอดรถเพิ่มเติมจากค่าส่วนกลางหรือไม่สำหรับคอนโด
- ซึ่งข้อนี้เหมือนจะไม่สำคัญแต่นักเขียนอยากแชร์ประสบการณ์ของลูกเพจที่เคยมาปรับทุกข์นะคะ เพราะบางคนไม่รู้ว่าค่าที่จอดรถไม่รวมกับค่าส่วนกลางที่จ่ายไปทำให้แต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และบางคนก็ไม่รู้ว่าคอนโดนั้นจะจำกัดจำนวนรถ/ห้องพักอาศัย
- ตรวจข้อมูลเกี่ยวกับการจำนองบ้านมือสอง
- ตรวจสอบข้อมูลการจำนองเดิมกับสถาบันการเงินให้ชัดเจน รวมถึงภาระผูกพันและสัญญาเช่าเดิมที่มีอยู่กับผู้อาศัยในปัจจุบันเพระผู้ซื้ออาจมีปัญหาการส่งค่างวด หรือค่าบริหารทรัพย์สินส่วนกลาง ต้องคุยรายละเอียดในเงื่อนไขเหล่านี้ให้ชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะถ้ามีหนี้สินจากค่าส่วนกลางจะไม่สามารถโอนได้นั่นเอง
- ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนบ้านมือสอง
- ต้องคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนบ้านมือสองที่จะซื้อ และเรื่องภาษีให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับภาระ
- ตรวจสอบและขอหลักฐาน
- ตรวจสอบและขอหลักฐานเก่าๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสัญญาเดิมเอาไว้ เพราะเอกสารเหล่านี้มีผลในการบังคับให้เจ้าของโครงการต้องปฏิบัติตามที่ตกลง หรือสัญญาที่เคยระบุไว้
การใช้บริการของบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
จัดอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกซื้อบ้านมือสอง เพราะเป็นช่องทางที่ทำให้มีบ้านมือสองมาให้เลือกมากขึ้น และยังมีโอกาสให้มีคำแนะนำและการช่วยเหลือในด้านต่างฯ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านมือสองด้วย เช่น การพาไปดูบ้าน การติดต่อสถาบันการเงิน การหาราคาประเมิน เป็นต้น