ทำความรู้จักกับ "คานคอดิน" ส่วนประกอบสำคัญในการสร้างบ้าน

หลายคนที่กำลังวางแผนจะสร้างบ้าน อาจให้ความสำคัญกับการออกแบบตกแต่ง พื้นที่ใช้สอย หรือแม้แต่วัสดุที่เลือกใช้ แต่รู้หรือไม่ว่า “โครงสร้างบ้าน” คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้บ้านของคุณอยู่ได้นาน แข็งแรง และปลอดภัย — และหนึ่งในโครงสร้างที่มักถูกมองข้ามก็คือ "คานคอดิน"

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับคานคอดิน ทำไมถึงสำคัญ? อยู่ตรงไหนของบ้าน? และควรออกแบบอย่างไรให้เหมาะสม

คานคอดินคืออะไร?

คานคอดิน หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า Ground Beam / Grade Beam คือคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่อยู่เหนือฐานรากและเสาตอม่อ ทำหน้าที่ รับและกระจายน้ำหนัก จากโครงสร้างทั้งหมดของบ้านลงสู่ฐานราก เพื่อไม่ให้เกิดการทรุดตัวหรือความเสียหายกับโครงสร้าง

คานคอดินรองรับน้ำหนัก 2 ประเภทหลัก

• Dead Load: น้ำหนักคงที่ เช่น โครงสร้างบ้าน ผนังหลังคา

• Live Load: น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น คน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า

ระดับความสูงของคานคอดินมีกี่ประเภท?

การออกแบบระดับคานคอดินให้เหมาะสมกับพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อความมั่นคงของบ้าน และรองรับการใช้งานในระยะยาว ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ ดังนี้:

1. คานคอดินสูงจากพื้นดินไม่เกิน 1 เมตร

• เป็นระดับพื้นฐานทั่วไป

• ต้องปรับพื้นที่ให้เท่ากับระดับคานเพื่อเทคอนกรีต

• ข้อควรระวัง: หากพื้นที่มีน้ำขังบ่อย อาจเสี่ยงพื้นบ้านเปียกหรือน้ำท่วม

2. คานคอดินสูงเกิน 1 เมตร แต่ไม่เกิน 1.5 เมตร

• ไม่ต้องปรับพื้นดินให้เสมอระดับคาน

• ใต้พื้นบ้านจะเป็นโพรง สามารถเข้าไปซ่อมแซมหรือเดินระบบได้สะดวก

• เป็นระดับที่นิยมมาก เพราะใช้งานได้ยืดหยุ่น

3. คานคอดินสูงเกิน 1.5 เมตร

• ต้องเสริมโครงสร้างมากกว่าปกติ

• แนะนำให้ทำคานเสริม 2 ชั้นเพื่อความมั่นคงของเสาตอม่อ

• เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องยกบ้านสูง เช่น พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก

สรุป: ทำไมคานคอดินถึงสำคัญ?

คานคอดิน คือโครงสร้างที่คอยรับและกระจายน้ำหนักทั้งหมดจากตัวบ้าน เหมือน “ราก” ของต้นไม้ ที่ทำให้ต้นไม้เติบโตได้อย่างมั่นคง หากบ้านไม่มีคานคอดิน หรือออกแบบไม่เหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาทรุดตัว ผนังร้าว หรือโครงสร้างเสียหายได้ในอนาคต

ดังนั้นหากกำลังสร้างบ้านใหม่ หรือรีโนเวทบ้าน ควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างโดยตรง เพื่อให้ได้คานคอดินที่เหมาะกับสภาพพื้นที่และการใช้งานของบ้านอย่างแท้จริง

ข้อมูลอ้างอิงจาก  Bannia.com